Botox คืออะไร?

ความจริงแล้ว โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารสกัดที่เรียกว่า โบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) สารนี้มีความเป็นพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) หากได้รับโดยการรับประทานจะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับเฉพาะจุดในปริมาณน้อยๆ อย่างพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวอันเป็นผลดีกับวงการแพทย์ ซึ่งนำมาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข นอกจากนี้ยังเป็นผลดีในวงการเสริมความงาม เพราะสามารถลดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า และทำให้ผิวกระชับขึ้นได้ อย่างไรก็ตามผลจากการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ถาวร เนื่องจากสารชนิดนี้สามารถสลายไปได้ จึงต้องกลับมาเติมเป็นระยะ

ก่อนฉีด Botox ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ ควรงดรับประทานยา หรือ วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น ยาแอสไพริน วิตามินซี น้ำมันตับปลา เป็นต้น

ขั้นตอนการฉีด Botox

  1. แพทย์ตรวจสอบสภาพผิวที่จะทำการฉีดโบท็อกซ์
  2. แพทย์ทายาชาเหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่จะฉีด เพื่อให้ไม่รู้สึกเจ็บ
  3. ฉีดโบท็อกซ์จะใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดสารโปรตีนปริมาณพอเหมาะลงไปที่กล้ามเนื้อ (ซึ่งปริมาณของโบท็อกจะมีหน่วยเรียกว่า "ยูนิต" หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "ยู" เวลาในการฉีดประมาณ 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ฉีด

การทำงานของ Botox

เมื่อแพทย์ทำการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในส่วนที่ต้องการรักษา โบท็อกซ์จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือกล่าวได้ว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว ตามปกติจะเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ หดตัวจนกลับมาเป็นเหมือนเดิม

โบท็อก แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

จุดที่แตกต่างกันในโบท็อกแต่ละยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์, ชนิด protein complex, ขนาดของ molecule complex และความคงทนในการเก็บรักษา

โบท็อกอเมริกา (Allergan)

Allergan เป็นบริษัท original ของโบท็อก มีงานวิจัยรับรองกว่า 3,500 งานวิจัย และผ่านการพัฒนาเพื่อที่มีฉีดโบท็อกไปแล้วจะมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และเห็นผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ครับ

โบท็อกอเมริกาตัวยามีการกระจายตัวแคบที่สุด จึงให้ผลการรักษาที่แม่นยำ การฉีดโบท็อกอเมริกาเพื่อให้อยู่ได้นานและผลเป็นธรรมชาติที่สุด ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ

โบท็อกอังกฤษ (Dysport)

จุดเด่นของโบท็อกอังกฤษ Dysport คือเมื่อฉีดแล้วตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดลิฟหน้าด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับผิว สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติจะตึงขึ้นประมาณ 50% นอกจากนี้จะนิยมใช้ Dysport ฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่องครับ

และเนื่องจากโบท็อกอังกฤษมีการกระจายตัวยากว้าง แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และใช้ความระมัดระวังในการฉีด เพื่อไม่ให้ยากระจายไปยังจุดที่ไม่ต้องการ และทำให้เสี่ยงเกิดผลข้างเคียงเช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด

โบท็อกเกาหลี (Nabota/Botulax)

โบท็อกเกาหลี Nabota/Botulax ถือเป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยมครับ Nabota เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) ส่วน Botulax พยายามพัฒนาให้เหมือนโบท็อกอเมริกา แต่ราคาถูกกว่าเท่าตัวครับ

โบท็อกเยอรมัน (Xeomin)

โบท็อกเยอรมันจะเน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน คุณสมบัติต่างๆ จึงอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษ คือมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ

และยังมีงานวิจัยที่แสดงว่า Xeomin สามารถให้ออกฤทธิ์ได้ในในเคสที่ดื้อโบท็อก (โดยที่เคสนั้นๆ ต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี

โบท็อก สามารถฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

  1. โบท็อกหน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าบริเวณหน้าผาก เช่น การย่นหน้าผาก หรือการเลิกคิ้ว ทำเกิดเกิดร่องแนวขวางบริเวณหน้าผาก จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Frontalis ที่ทำหน้าที่ยกคิ้วนั่นเองค่ะ โดยปกติมักจะเกิดจากการแสดงสีหน้าตกใจ ประหลาดใจ หรือในผู้ที่มีการฝ่อลงของกระดูกหน้าผากทำให้หนังตาตก ก็จะมักจะเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณนี้เพื่อยกเปลือกตาที่ตกลง
  2. โบท็อกหัวคิ้ว ช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าบริเวณหัวคิ้ว เช่น การขมวดคิ้ว ทำให้เกิดร่องเส้นตรงบริเวณหว่างคิ้ว หรือก้อนกล้ามเนื้อนูนแข็งขึ้นบริเวณหัวคิ้ว จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Corrugator โดยมักจะเกิดจากการแสดงสีหน้าสงสัย การเพ่งจ้องเป็นเวลานานๆ
  3. โบท็อกหางตา ช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้ารอบดวงตา เช่นการยิ้ม การหัวเราะ ทำให้เกิดร่อง ริ้วรอยรอยหางตาและใต้ตา จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Orbicularis Oris
  4. โบท็อกลดรอยย่นจมูก หรือ Bunny Line ช่วยลดริ้วรอยจากการย่นจมูก ที่ทำให้เกิดร่องริ้วรอยแนวขวางบริเวณดั้งจมูกและด้านข้างของจมูก จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Nasalis โดยมักจะเกิดจากการยิ้ม
  5. โบท็อกกราม ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว ลดขนาดกล้ามเนื้อกรามที่โตขึ้น จากการขยายตัวของกล้ามเนื้อ Masseter มักเกิดจากการเคี้ยวอาหารเหนียวแข็ง หรือ ขนมขบเคี้ยว เช่น หมากฝรั่ง ข้าวเหนียว
  6. โบท็อกคาง ช่วยลดคางบุ๋ม หรือ ผิวไม่เรียบบริเวณคาง จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Mentalis จากการเม้มปาก
  7. โบท็อกมุมปาก ช่วยลดร่องริ้วรอยบริเวณมุมปาก ลดปัญหามุมปากตก จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ Dorsalis Anguli Oris
  8. โบลิฟติ้ง ช่วยยกกระชับผิว เก็บกรอบหน้า ปรับรูปหน้า โดยการนำสารโบทูลินั่มในปริมาณที่เหมาะสม มาฉีดในผิวหนังชั้น Dermis ทำให้เกิดการเรียงตัวของคอลลาเจน และกระตุ้นผิวให้มีการร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
  9. โบท็อกรักแร้ ช่วยลดปัญหาเหงื่อออกมากบริเวณรักแร้ และลดกลิ่นตัวจากกรักแร้ โดยการนำโบท็อกมาฉีดบริเวณรักแร้ที่เกิดการทำงานผิดปกติของต่อมเหงื่อ ซึ่งถูกกระตุ้นโดยระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้รักแร้แห้ง และลดปัญหากลิ่นตัวได้
  10. โบท็อกลดน่อง ช่วยลดกล้ามเนื้อน่องที่โตผิดปกติ จากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อน่องเป็นเวลานาน เช่นการยืนเขย่ง หรือ ใส่รองเท้าส้นสูงนานๆ การฉีดโบทูลินั่มท็อกซินจะช่วยลดน่องให้มีขนาดลดลงได้

หลังฉีดโบท็อก เห็นผลเมื่อไร?

  1. โบท็อกลดริ้วรอย เช่น บริเวณหน้าผาก หัวคิ้ว หางตา รอยย่นจมูก มุมปาก และคางบุ๋ม โดยปกติ จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของริ้วรอยภายใน 3 วัน โดยริ้วรอยจะค่อยๆจางลง และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ และผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมส่วนบุคคล
  2. โบท็อกกล้ามเนื้อกราม หรือ น่อง จะเห็นผลลัพธ์ภายใน 14 วัน และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 1 เดือน และจะคงอยู่ได้นาน 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมส่วนบุคคล

การดูแลตัวเองหลังฉีด Botox

  1. ไม่นอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
  2. ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง ในคืนแรกของการรักษา
  3. ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกซ์มา เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
  4. หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ (ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา) ให้ใช้น้ำแข็งประคบได้
  5. ภายใน 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์มาสัมผัสความร้อน
  6. ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันที

ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี

ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง การฉีดโบท็อกซ์นั้น ต้องทำโดยตรงกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะรู้ตำแหน่งที่สำคัญในการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งสังเกตุเห็นง่ายๆเลยจากการพูดถึง บอกต่อหรือการรีวิวจากคนจำนวนมาก โดยเราสามารถดูได้จากภาพก่อนรักษา-หลังรักษา ส่วนใหญ่คลินิกฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ชื่อนี้จะมีการพูดถึงบ่อยในโลกออนไลน์อยู่เสมอๆ

The Best Brand Thailand ได้รวบรวมคลินิกความงามที่ฉีดโบท็อกที่ดีที่สุด ปี 2024 มาให้เลือกกัน

อันดับ 1

ตรีสุรางค์ คลินิก

ตรีสุรางค์ คลินิก บริหารโดยคุณหมออ๊อม หรือ พญ. ตรีสุรางค์ ลิ้มไพบูลย์ เป็นคลินิกผู้ให้บริการความงามแบบครบวงจร คลินิกนี้มีชื่อเสียงในแวดวงนางงามและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนางงามชื่อดังหลายท่าน ด้วยเทคนิคการฉีดโบท็อกขั้นสูง Advanced Facial Toxin A and Facial Filler

ฉีดโบท็อกออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติ และทางตรีสุรางค์คลินิก ยังมีบริการฟิลเลอร์ ร้อยไหม ดูแลผิวพรรณ ลด ฝ้า กระ และ ชะลอวัยโดยเทคนิคต่างๆ จากประเทศเกาหลี และ ดูไบ ด้วยผลิตภัณฑ์ของ คุณหมออ๊อม และ พนักงาน พร้อมให้คำปรึกษา ดูแลลูกค้าทุกท่านด้วยใจ โดยมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา

ทำไมต้องฉีด Botox ที่ตรีสุรางค์ คลินิก
  1. ทีมแพทย์ตรีสุรางค์คลินิกมีเชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้า ประสบการณ์มากกว่า 10ปี ทั้งทางด้านความงาม ผิวหนังและศาสตร์การชลอวัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  2. ได้รับรางวัลการันตี Top 10 clinic ที่ใช้ Botox และฟิลเลอร์สูงสุด 5 ปีซ้อน

**หากคุณสนใจใช้บริการ Botox ลดริ้วรอย, Botox หน้าเรียว, Botox ลิฟกรอบหน้า มีให้ทดลองใช้บริการแล้วทุกสาขา

ปกติราคา จุดละ 9,900 บาท จัดโปรโมชั่นเหลือ 3,990 บาท ใกล้ที่ไหนไปใช้บริการได้เลย! จองคลิ๊ก!

ช่องทางการติดต่อ

แผนที่สาขา (ลาดพร้าว62): Click Here

มหาชัย: 099-562-4446

แผนที่สาขา (มหาชัย): Click Here

ราชบุรี: 094-664-6292

แผนที่สาขา (ราชบุรี): Click Here

อันดับ 2

THE KLINIQUE

ทีมแพทย์ด้านศัลยศาสตร์และเลเซอร์ผิวหนังที่มีความรู้ ความชำนาญ ได้วุฒิบัตรผิวหนังการศึกษาทั้งไทย สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ พร้อมด้วยพนักงานที่ผ่านการอบรมทั้งด้านข้อมูล ความรู้ และการให้บริการ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของท่าน นอกจากนี้เดอะคลีนิกค์ยังให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้แพทย์มีการศึกษาต่อเนื่องเพื่อให้มีความรู้ที่ทันสมัยตลอด เช่น การเข้าร่วมประชุมทั้งในและต่างประเทศ การทำงานวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ต่างๆ ทีมแพทย์ ทุกท่านยินดีที่จะให้การดูแล วิเคราะห์สภาพปัญหาผิว และให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาในการรักษาโดยละเอียด

โปรแกรม DermoLift ของ THE KLINIQUE คือ การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เทคนิคเฉพาะที่เดอะคลีนิกค์ เพื่อลดริ้วรอยและยกกระชับผิวทั้งใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมไปกับการปรับลดขนาดกราม และปรับรูปหน้าให้เรียวได้ในครั้งเดียว โดยทีมแพทย์จะออกแบบแนวทางการรักษาที่มีรูปแบบเป็นลักษณะเฉพาะในแต่ละคน จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคุณ ด้วยตัวยาที่ได้รับรองความปลอดภัยจากทั้ง US FDA และ อย.ประเทศไทย

ฉีดโบท็อกซ์อย่างมั่นใจต้องที่ THE KLINIQUE

เนื่องจาก THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามที่ให้บริการแบบครบวงจร ทั้งเครื่องมือและตัวยาที่ใช้ในการรักษาล้วนเป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ได้รับรองมาตรฐาน US FDA (อย.ของสหรัฐอเมริกา) คุณจึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย นอกจากนี้ทุกเคสยังได้รับการดูแลและทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชียวชาญ นอกจากนี้ THE KLINIQUE ยังได้รับมอบรางวัลผู้นำด้านการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าจากบริษัท Allergan และ บริษัท Galderma ประเทศสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทย และนานาชาติ ตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา

DermoLift (Botox) เหมาะกับใคร?
  1. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว รอยย่นที่คอ
  2. ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว เนื่องจากหน้าเหลี่ยม กล้ามเนื้อกรามใหญ่
  3. ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบตึง กระชับ แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
  4. ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกใต้วงแขนมาก และมีกลิ่นตัว
  5. ผู้ที่มีกล้ามเนื้อน่องขาโต และต้องการปรับให้น่องเล็กเรียวสวย
ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 3

Apex Profound Beauty

Apex Profound Beauty ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะมั่นใจได้ว่าได้มาตรฐานและปลอดภัย เพราะที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับต้น ๆ ด้านการฉีดโบท็อกซ์ ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและดำเนินการโดยทีมแพทย์ระดับผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าคุณจะต้องการฉีด Botox เพื่อปรับรูปหน้าหรือยกกระชับสัดส่วนก็สามารถทำได้หมด ไร้ซึ่งความยุ่งยากใด ๆ ทำได้ง่าย ๆ ภายในแค่ 15 - 20 นาที ตามคอนเซปต์ “Lunch Time Beauty” เลยล่ะค่ะ

Apex Profound Beauty ก่อตั้งขึ้นโดยแพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ในปี 2538 ตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานกว่า 20 ปี Apex Profound Beauty มุ่งเน้นเทคโนโลยีระดับโลก ที่เป็นที่ยอมรับถึงประสิทธิภาพ

Botox Face Lift

การฉีดโบท๊อกซ์ เพื่อกระชับรูปหน้า แพทย์จะฉีดไล่ตามแนวกรอบหน้า และลำคอ ตามปัญหาของแต่ละคน โดยสารโบท๊อกซ์ ที่ฉีดเข้าไป ตรงกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Platysma muscle ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อแผ่นใหญ่มากพาดระหว่างแนวขอบคาง ยาวลงเกือบถึงไหปลาร้า มีหน้าที่ดึงหน้าลง เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง การฉีดกล้ามเนื้อมัดนี้ ซึ่งทำหน้าที่ดึงหน้าลงให้คลายตัว กล้ามเนื้อมัดตรงข้ามจะทำงานได้เด่นกว่า ส่งผลให้หน้าถูกยกขึ้น ลำคอตึงกระชับ หน้าเรียวขึ้น

โบท๊อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 2-3 เดือน หลังจากการฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 4

ราชเทวีคลินิก

ราชเทวีคลินิกเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้างว่า ทุกบริการล้วนได้มาตรฐานสากล สะอาดและปลอดภัย มาพร้อมกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย จึงไม่น่าแปลกใจเลยค่ะว่า ทำไมหลายคนถึงเลือกมาใช้บริการฉีด Botox กับที่นี่ ซึ่งโปรแกรมฉีด Botox ที่ราชเทวีคลินิกถือว่ามาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ ผู้เข้ารับบริการยังสามารถปรึกษากับทีมแพทย์โดยตรงได้อีกว่าควรเลือกใช้ Botox ยี่ห้อใด จึงจะตอบโจทย์ความต้องการได้ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ราชเทวีคลินิกยังมีสาขาในต่างจังหวัดให้เข้าไปใช้บริการอีกด้วยค่ะ

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี? ต้องที่ราชเทวีคลินิก
  1. มั่นใจยาแท้ สั่งจากบริษัททุกขวด เช็คจากบริษัทยา คอมม่า นำเข้าในไทย อยไทยถูกต้อง การันตีด้วยรางวัลจากบริษัทยาทุกปี
  2. คุณหมอผสมยา ตามมาตฐานสากล และบริษัท ไม่ผสมยาเกินมาตฐาน ทำให้ยาอยู่ได้นาน ตามเวลาที่บริษัทแจ้ง (หากใช้ยาแท้ แต่ผสมน้ำเกลือมากเกินไป อาจจะเห็นผลแต่อยู่ได้แค่ 1-2 เดือน)
  3. มีการติดตามผลทุกเคส หลังจากทำ เพื่อผลลัพย์ที่ชัดเจน
  4. ไม่เสี่ยงการดื้อยา จากการใช้สาร botox ปลอม ที่อาจจะทำให้ฉีด botox ครั้งต่อไปไม่เห็นผล
ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 5

นิติพล คลินิก

นิติพล คลินิก เติบโตภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง จนในขณะนี้ นิติพล คลินิก มีสาขาว่า 130 สาขาทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า พร้อมการบริการที่เป็นหนึ่งจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงานที่มีความรู้ความชำนาญเป็นเลิศ ทำให้นิติพล คลินิก ไม่ได้เป็นเพียงคลินิกดูแลผิวพรรณ แต่เป็นสถาบันดูแลความงามครบวงจรที่รวม “ศาสตร์” แห่งการแพทย์ที่ล้ำสมัย และ “ศิลป์” เพื่อความงาม ให้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เรื่องของการลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า

ฉีดโบท็อกกรุงเทพที่ไหนดีต้อง นิติพล คลินิก เน้นการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกราม ลดรอยตีนกา และรอยย่นต่างๆ ให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง อีกทั้งโบท็อกซ์ยังมีวิธีการผสมตัวยาสูตรเฉพาะของ นิติพล คลินิก โบท็อกซ์ของที่นี่มี 2 ตัวหลักๆ ได้แก่ Hugel premium จากประเทศเกาหลี และ USA allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาฉีดโบท็อกซ์เริ่มต้นที่ 9,900 บาท

ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 6

Pongsak Clinic

พงศ์ศักดิ์คลินิกเป็น คลินิกความงามที่ ดูแลผิวพรรณ จัดการปัญหาผิว ลดริ้วรอย ลดกรามหน้าเรียว ลดน่อง ลดเหงื่อ ด้วยการฉีดโบท็อกซ์และได้รับรางวัล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการ ฉีดโบท็อก ด้วยเทคนิคการฉีดโบท็อกขั้นสูง ทำให้ใบหน้าออกมาเป็นธรรมชาติและปลอดภัยโดย มีนายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 30 ปี ประกอบไปด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งนำนวัตกรรมอันทันสมัยมาตอบสนองความต้องการด้านความงาม

โบท็อกซ์ออกฤทธิ์อย่างไร?

เมื่อรู้ว่าโบท็อกซ์ (Botox) คืออะไรกันไปแล้ว ขออธิบายเพิ่มเติม ถึงผลลัพธ์เมื่อทำการฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว ว่าสาร Botulinum Toxin A จะออกฤทธิ์และส่งผลกับบริเวณที่ฉีดอย่างไรบ้าง?

โดยเมื่อคลินิกฉีดโบท็อกซ์ ได้ทำการเลือกและฉีดโบท็อกซ์ให้กับเราแล้ว สาร Botulinum Toxin A จะเข้าไปทำให้เซลล์ประสาทบริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดหยุดหลั่งสารสื่อประสาทออกมา จนทำให้เรารู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวหดตัว ชา และตึงจนไม่สามารถขยับได้ และเมื่อฉีดไปสักครู่ กล้ามเนื้อส่วนที่ฉีดก็จะค่อย ๆ คลายตัวออกมาและทำให้ร่องลึกบนใบหน้าดูจางลง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ระยะเวลาการเห็นผลจะแตกต่างกันไป ดังนี้

  1. หลังฉีด 2 – 3 วัน ริ้วรอยต่าง ๆ จะเริ่มดูจางลง
  2. หลังฉีด 7 – 14 วัน ริ้วรอยและร่องลึกต่างๆ จะเริ่มดูจางลง

และเนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ร่างกายก็จะค่อยๆ สลายโบท็อกซ์ไปเมื่อเวลาผ่านไป 6 – 12 เดือน แตกต่างกันไปตามการดูแล และชนิดของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้

ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 7

Amed Clinic

Amed Clinic ของมาดาม มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เกี่ยวกับการฉีด โบท็อกซ์ Botox เพื่อลดกราม ทำให้หน้าเรียว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เพราะการทำให้ใบหน้าเรียว กระชับเป็นวีเชฟ แพทย์จะเป็นผู้ตรวจสภาพผิวของลูกค้าก่อนฉีดโบท็อกซ์ Botox คุณจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย หลังฉีด Botox แล้ว เวลาผ่านไปประมาณ 4-7 วัน ริ้วรอยต่างๆ ก็จะเลือนหาย ผิวเรียบตึงดูอ่อนเยาว์ และกรามที่เคยเป็นเหลี่ยมก็จะเข้าที่และหน้าดูเรียวเพรียวปิ๊งเวอร์

ซึ่งหลักสังเกตง่ายๆ โบท็อกซ์ของแท้จะมีที่เขียนกำกับว่า ยาควบคุมพิเศษโดยองค์การอาหารและยา และมีอีกจุด คือ เลขของขวดโบท็อกซ์และกล่องต้องเป็นเลขเดียวกัน ซึ่งเราจะสามารถตรวจสอบดูได้อยู่แล้ว เพราะเวลาฉีดโบท็อกซ์คลินิกส่วนใหญ่จะเปิดกล่องต่อหน้าคนไข้ หรือถ้าขอขวดโบท็อกซ์กลับบ้านได้ ให้ขอมาก็ได้ค่ะ เพื่อความสบายใจของเราเอง

ประเภทของโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยม ใช้มี 4 ประเภทคือ
  1. American Toxin โบท็อกซ์จากประเทศอเมริกา โบท็อกซ์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับสาวๆ และสถาบันเสริมความงามเพราะ Botulinum toxin A เป็นสารที่ปลอดภัย เมื่อใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
  2. Korean Toxin (Neuronox) โบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับความนิยม จะมีราคาที่ถูกกว่าของอเมริกา
  3. โบท็อกซ์อังกฤษ (Dysport) โบท็อกซ์จากอังกฤษจะมีจุดเด่นที่เมื่อทำการฉีดแล้วจะมีการกระจายของตัวยาได้ทั่วถึง โดยต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ความระมัดระวังในการฉีด
  4. โบท็อกซ์เยอรมัน (Xeomin) โบท็อกซ์ที่ให้ผลค่อนข้างเป็นธรรมชาติตัวยาไม่กระจุกจนเกินไปและมีความบริสุทธิ์ของตัวยาที่สูง
ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 8

Siam Laser Clinic

Siam Laser Clinic เป็นอีกหนึ่งคลินิกเสริมความงานที่มีความพร้อมในการให้บริการ ฉีดโบท็อก เพื่อปรับโครงรูปใบหน้า ลบริ้วรอยของคุณให้มีใบหน้าสวยเรียว พร้อมด้วยระบบการดูแลและให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ส่งผลให้คลินิก SLC นี้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน อีกทั้งนอกจากการให้บริการฉีดโบท็อก ทางคลินิกยังมีการให้บริการ Ulthera ซึ่งเป็นวิธีการดูแลความงามนวัตกรรมใหม่อีกด้วย ดังนั้นรับรองได้ว่าได้มาตรฐาน

คำถามยอดฮิตการฉีดโบท็อกที่ Siam Laser Clinic

Q: หลังจากฉีดไปแล้วนานไหมกว่าจะเห็นผล?

A: แต่ละจุดจะเห็นผลด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยปกติทั่วไปแล้ว หากฉีดสารคลายกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือริ้วรอย จะเริ่มรู้สึกได้หลังทำประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป และเห็นผลชัดเจนที่สุด 1 เดือนขึ้นไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล

Q: ฉีดแล้วอยู่ได้นานไหม?

A: แต่ละจุดจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป เช่น ฉีดสารคลายกล้ามเนื้อเพื่อริ้วรอย จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ฉีดสารคลายกล้ามเนื้อบริเวณกราม ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและกิจกรรมต่างๆ ของผู้เข้ารับบริการ

Q: ฉีดสารคลายกล้ามเนื้ออันตรายไหม?

A: สารคลายกล้ามเนื้อเป็นสารสกัดจากโปรตีน ซึ่งแทบจะไม่มีผลข้างเคียง มีความปลอดภัยสูง และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) จากประเทศสหรัฐอเมริกา US FDA และ อย.ของไทย และสารตัวนี้จะสามารถสลายไปเองได้ ไม่ตกค้างในชั้นผิว

ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 9

STM style

บริษัท STM style ก่อตั้งขึ้นที่เกาหลีตั้งแต่ปี 2004 เป็นบริษัทที่รับผลิตรายการเชิงการแพทย์และสารคดีเกี่ยวกับการแพทย์ต่างๆ กว่า 500 ตอนและออกอากาศทางโทรทัศน์ นอกจากนี้บริษัทมีประสบการณ์การทำงานกับเหล่าบรรดาแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญการให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมความงามต่างๆ ทำให้บริษัทสามารถก่อตั้งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านความงาม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเกาหลีเป็นผู้ดูแล และยังดูแลเป็นที่ปรึกษาและติดต่อในการรับการรักษาโรคเฉพาะทางอื่นๆ อีกด้วย ปัจจุบันบริษัทยังเปิดโครงการสัมมนาอบรมเทคนิคการแพทย์เกาหลี สำหรับแพทย์ไทยที่มีความสนใจอยากแลกเปลี่ยนความรู้ และเรียนรู้เทคโนโลยีทางการแพทย์ของเกาหลี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเทคนิคการแพทย์ของไทย

จุดเด่นของ STM style
  1. คุณคิม ซอน ฮา (Kim Sun Ha) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมความงามเกาหลี มานานกว่า 12 ปี ให้คำปรึกษาลูกค้ามาแล้วหลายหมื่นคน มีความเชี่ยวชาญและชำนาญด้านศัลยกรรมความงามเกาหลีอย่างมาก โดยมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่ได้มาตราฐานและมีชื่อเสียงแนวหน้าของประเทศเกาหลีมากมายหลายแห่ง คัดสรรศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้เหมาะสมกับประเภทการศัลยกรรมของลูกค้า ซึ่งบริษัท STMstyle เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสารธาณะสุขประเทศเกาหลีใต้ และเป็นผู้สนับสนุนรายการศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต Let Me In Korea และ Let Me In Thailand จึงทำให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างให้การยอมรับ และไว้วางใจในการใช้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  2. STM style มุ่งเน้นให้บริการเชิงการแพทย์ที่ถูกต้องและเหมาะสมและรับประกันผลลัพธ์ที่ดี
  3. เพื่อผลลัพธ์ทีดีและสมบูรณ์ในด้านการศัลยกรรม ให้ความฝันเป็นจริง ลบฝันร้ายเกี่ยวกับความไม่มั่นใจ
  4. บริษัทมีข้อมูลและการโฆษณาที่เพียบพร้อม และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านในการศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี
  5. บริษัทมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากกว่า 73 ท่าน พร้อมจะดูแลและให้บริการเมื่อเดินทางไปเกาหลี
  6. การบริการจองที่พักโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน อีกทั้งโปรโมชั่นแต่ละเดือนที่หลากหลาย
  7. STM style เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับรองและได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเกาหลี และคิดค่าใช้จ่ายตามจริง ไม่มีการรวมค่าคอมมิชชั่นใดๆ
  8. STM style เป็นบริษัทเดียวที่มีเอกสารรับรองและเอกสารยืนยันเชิงการแพทย์มากว่า 100 ใบ
  9. การทำศัลยกรรมเกาหลี สิ่งสำคัญคือการเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะเน้นการโฆษณาโดยนำรูปภาพก่อนหลังมาประกอบ การเน้นปริมาณโฆษณา ไม่ใช่ตัวบ่งบอกว่าโรงพยาบาลนั้นสามารถเชื่อถือได้ สิ่งสำคัญคือประวัติความเป็นมา ความทันสมัยในการใช้เครื่องมือการแพทย์ และฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัดศัลยกรรม สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลพื้นฐานที่ช่วยการันตีความน่าเชื่อถือแก่โรงพยาบาลนั้นๆ อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาเป็นที่น่าพึ่งพอใจที่สุด คือการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการผ่าตัดศัลยกรรมเกาหลี
บริการของคลินิก
  1. เข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและศัลยแพทย์จากรายการ Let Me In Thailand (ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)
  2. บริการจองตั๋วเครื่องบิน ตามความประสงค์ของลูกค้าและมีสิทธิพิเศษลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
  3. บริการจองที่พัก ตามความประสงค์ของลูกค้าและมีสิทธิพิเศษในการได้ที่พักฟรี สูงสุด 14 วัน ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
  4. คลินิกนี้มีบริการรถรับส่งจากสนามบิน - ที่พัก - โรงพยาบาล ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีล่ามเกาหลี (คนไทย) ดูแลระหว่างอยู่ที่เกาหลีใต้
  5. การศัลยกรรมจะดำเนินการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และมีล่ามคอยดูแลระหว่างการผ่าตัด จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า จะได้รับการผ่าตัดจากศัลยกรรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่กำหนดไว้
  6. หลังจากการศัลยกรรมที่เกาหลี จะมีบริการลดบวมและทรีตเมนท์ให้กับลูกค้าที่ประเทศไทย รวมถึงการติดตามผล ดูแลตลอดระยะเวลาพักฟื้นหรือจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่เรียบร้อย
ช่องทางการติดต่อ
อันดับ 10

รมย์รวินท์ คลินิก

สำหรับใครที่กังวลเรื่อง ริ้วรอย รอยย่น ตีนกา หน้าไม่เรียว มีกรามใหญ่ อยากยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัด รมย์รวินท์ คลินิกสามารถช่วยได้ด้วยการผสมผสาน Botulinum Toxin Type A หรือ Botox คุณภาพดี ได้รับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย กับประสบการณ์ทางการแพทย์กว่า 14 ปี เพื่อผลลัพธ์ที่คุณมั่นใจ

ทำไมต้องรมย์รวินท์ คลินิก

รมย์รวินท์ คลินิก คัดสรร Botulinum Toxin Type A ที่ปลอดภัย และได้คุณภาพ โดยต้องผ่านการพัฒนาจากห้องแล็บที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยคนไข้จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วภายใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดใน 7 วัน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 5-7 เดือน

แพทย์ของรมย์รวินท์ คลินิกจะต้องผ่านการเรียนรู้เทคนิคเฉพาะอย่างเข้มข้น เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ และคงมารตฐานของผลลัพธิ์ ด้วยประสบการณ์กว่า 14 ปีทำให้รมย์รวินท์ คลินิกเข้าใจถึงความต้องการของคนไข้แต่ละคน โดยจะเน้นความสวยอย่างธรรมชาติ ไม่แข็ง และในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อใบหน้าที่สวยละมุน และดูอ่อนเยาว์

การรักษา

แพทย์จะตรวจและพิจารณาปัญหาเพื่อกำหนดปริมาณยาที่ต้องใช้เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่เหมาะสม ขั้นตอนการรักษาใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยใช้ Botox ปริมาณเพียงเล็กน้อย ฉีดที่จุดต่างๆ ด้วยเข็มที่เล็กมากซึ่งผู้ที่ได้รับการฉีดจะรู้สึกคล้ายมดกัดเท่านั้นหลังการรักษา จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ รู้สึกถึงความยกกระชับใบหน้าได้ทันที คุณสามารถกลับไปทำภารกิจต่างๆ ได้ตามปกติ

ช่องทางการติดต่อ